ช่างทาสีวัย 51 ได้รับบาดเจ็บหลัง โดนแทงระหว่างข้ามสะพานลอย ยืนยันไม่รู้จักกับผู้ก่อเหตุมาก่อน และไม่เคยมีเรื่องมาด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทกันบนสะพานลอยหน้าไปรษณีย์ สาขาประชาอุทิศ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.44 น. และมีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุครั้งนี้ 1 ราย
เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบ ชาย 2 คนกำลังต่อสู้กันอยู่
เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัคร จึงช่วยกันระงับเหตุ และจับแยกกันออกมา ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นเป็นชายอายุ 51 ปี ทราบชื่อคือ นาย สุรศักดิ์ ป้าน อายุ 51 ปี มีอาชีพเป็นผู้รับเหมาทาสี โดยนาย สุรศักดิ์ได้รับบาดเจ็บหลายจุด ที่แขนด้านขวาถูกอาวุธมีดไม่ทราบขนาด ฟันจนเป็นแผลร่องลึกถึงกระดูก บาดแผลเปิดกว้างมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ส่วนที่หูถูกตีด้วยขวดอย่างแรงจนแตกเลือดอาบ ใต้ตาด้านขวามีแผลแตก แล้วที่หัวบวมโนจากการถูกทุบตีด้วยขวด
จากนั้นอาสาสมัครจึงรีบจัดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้วนำส่งที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน ตามสิทธิ์การรักษาของผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเป็นชาย 1 คน อายุประมาณ 30 ปี ไปสอบสวนถึงสาเหตุการลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ต่อไปและได้บันทึกภาพภายในที่เกิดเหตุทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บเล่าว่า ตนเองไปธุระแล้วกำลังจะเดินทางกลับบ้านก็เลยมาเดินข้ามสะพานลอยดังกล่าว แล้วมาพบกับผู้ก่อเหตุเข้าโดยบังเอิญ แล้วไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย แต่ระหว่างที่กำลังเดินขึ้นสะพานลอยนั้น อยู่ๆก็โดนชายผู้ก่อเหตุเข้ามาทำร้าย โดยใช้ขวดและมีดเข้ามาตีมาฟันจนได้รับบาดเจ็บ
ตนเองก็พยายามที่จะปกป้องตนเองแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุมีอาวุธตนก็เลยได้รับบาดเจ็บอย่างที่เห็นจนกระทั่ง มีพลเมืองดีโทรแจ้งตำรวจ ส่วนตนเองนั้นยืนยันได้เลยว่าไม่เคยรู้จักกับผู้ที่มาทำร้ายตนเลย แล้วไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อนด้วย
เบื้องต้นทางตำรวจได้เชิญตัวชายสูงอายุคนดังกล่าวออกจากสำนัก ท่ามกลางเสียงร้องตะโกน ต่อต้าน ของลูกศิษย์ ที่ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่นำตัวชายสูงอายุคนดังกล่าวออกไป เบื้องต้นมีการแจ้งข้อหาบุกรุกที่สาธารณะ ส่วนกรณีร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ราย อยู่ระหว่างงตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งตามขั้นตอนกฏหมาย
ทั้งนี้ จากการเข้าตรวจสอบภายในสำนัก พบเจอร่างผู้เสียชีวิตถึง 11 ราย โดยมีการอ้างว่า รอการขึ้นสวรรค์ ขณะที่ทางลูกศิษย์ ซึ่งตั้งแต่เจ้าหน้าที่เริ่มปฏิบัิหน้าที่เข้าไปจับกุมตัวชายสูงอายุที่อ้างตัวเป็นบิดาของทุกศาสนานั้น ฝั่งลูกศิย์ได้มีการตะโกนถามถึงหมายจับ รวมถึงข้อหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแลพ หมอปลา บุกเข้ามาจับกุมตัวพระอาจารย์ของพวกเขาไปในครั้งนี้ ส่วนเรื่องของศพที่เสียชีวิต ทางลูกศิษย์แจ้งว่าไม่สามารถนำใบยืนยันการเสียชีวิตมาให้ดูได้ 5 ราย
รวบสาวขายสัตว์ป่าคุ้มครองผ่านเฟซบุ๊ก ตรวจยึด ‘ลิงกัง’ ได้จำนวน 1 ตัว
ขาย สัตว์ป่าคุ้มครอง ผ่านเฟซบุ๊ก ตรวจยึดลิงกังได้จำนวน 1 ตัว ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกันจับกุม หญิง วัย 26 ปี หลังโดนล่อซื้อ ของกลาง ลิงกัง 1 ตัว
วันที่ 6 พ.ค.65 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.ปทส, พ.ต.อ.อริยพล สินสอน รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา ผกก.6 บก.ปทส. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สมภพ ตรงต่อกิจ สว.กก.6 บก.ปทส. พร้อมด้วยข้าราชการในสังกัด กก.6 บก.ปทส.
ร่วมกันจับกุม “น.ส.ณัฐณิชาฯ อายุ 26 ปี” หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมประกาศขายสัตว์ป่าคุ้มครองผ่านทางเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่จึงได้ติดต่อขอซื้อลิงกังกับผู้ต้องหา จำนวน 1 ตัว ซึ่งเมื่อผู้ต้องหานำของกลางมาส่ง เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึด และจับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ อ้างอิงข้อมูลจาก พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 “สัตว์ป่าคุ้มครอง” หมายความว่า สัตว์ป่าที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ หรือจำนวนประชากร
ของสัตว์ป่าชนิดนั้นมีแนวโน้มลดลงอันอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ตามทีกำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้
โดย มาตรา 17 ส่วนที่ 3 การครอบครองสัตว์ป่า ระบุไว้ว่า ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่า
ดังกล่าว เว้นแต่
1. เป็นการครอบครองโดยผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งและประกอบกิจการสวนสัตว์ตามมาตรา 33 หรือสวนสัตว์ที่หน่วยงานของรัฐจัดตั้งตามหน้าที่
2. เป็นการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์ได้ของผู้รับใบอนุญาตดำเนินกิจการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าตามมาตรา ๒๘ ที่มีไว้เพื่อการเพาะพันธุ์หรือได้มาจากการเพาะพันธุ์ หรือซากสัตว์ป่าดังกล่าว
3. เป็นกรณีตามมาตรา 10 หรือมาตรา 11
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป